ตอนนี้ได้ Gadget ใหม่ เป็น Pebble สีแดงมาดูกันว่าเราทำอะไรกับมันได้บ้าง สมกับราคา 3xxx + หรือไม่ ::อ้างอิง ข้อมูลรีวิวนี้ใช้ร่วมกับ I-phone นะครับ
ส่วนนี้เป็นส่วนที่ใช้งานได้และข้อดีของ Pebble นะครับ
1. ดูเวลา / วันที่
แน่นอนว่ามันคือนาฬิกา หากดูเวลาไม่ได้นี่มันก็กระไรอยู่ ข้อดีคือ เปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้หลากหลายมาก ทั้งแบบ Digital หรือ Analog และหน้าจอของ Pebble นั้นจะติดอยู่ตลอดเวลา เราสามารถมองเวลาได้ทุกมุม ไม่ต้องยกมือมาถึงจะแสดงผล หรอกดปุ่มก่อนถึงจะแสดงผล
ตัว Pebble มันค่อนข้างตอบสนองตรงนี้ได้ดี คือ สามารถใช้ได้ประมาณ 3-6 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้งกัน เลยทีเดียว ระยะเวลาการใช้งานจะขึ้นอยู่กับ App ที่ลงไว้ทีนาฬิกาและลักษณะของนาฬิกา (Watch face) ซึ่งบางลักษณะจะเป็นแบบ Animation ซึ่งจะเปลืองแบตมากเป็นพิเศษ
2. หน้าจอสู้แสง
หน้าจอเป็นแบบ E-Paper อะไรนี่หละครับ เอาง่าย ๆ คือ ยิ่งอยู่ที่สว่าง ยิ่งมองเห็นหน้าจอชัดเจนครับ ส่วนในที่มืด ตัว Pebble มีไฟ Backlight มาให้ด้วยครับ สามารถสะบัดข้อมือ หรือกดปุ่มที่ตัวเครื่องก็จะมีไฟเรืองแสงขึ้นมา
3. การแจ้งเตือน
นอกจากมันเป็นนาฬิกาแล้ว มันสามารถรับการแจ้งเตือนต่าง ๆ จาก โทรศัพท์ได้ด้วย และสามารถใช้ร่วมกับทั้งโทรศัพท์ Android และ IOS
ตัวนาฬิกาสามารถรับการแจ้งเตือนได้ทั้งหมดที่ขึ้นแสดงในโทรศัพท์
แต่ แต่ แต่ รู้สึกว่าแอฟ Mail ที่ติดมากับ iPhone จะไม่สามารถแสดงผลได้ อันนี้ก็ไม่รู้เพราะอะไร ก็เลยรับการแจ้งจากแอฟ Gmail แทน
นอกจากนั้นหากมีสายโทรเข้าก็จะแสดงที่นาฬิกาด้วย และสามารถปฏิเสธการรับสายหรือรับสายได้ที่นาฬิกาเลย หากรับสายก็ต้องยกโทรศัพท์มาคุยเหมือนเดิมนะ
4. ลง App เพิ่มเติมในนาฬิกาได้
สามารถลง App เพิ่มเติมในนาฬิกาได้ เพื่อเพิ่มความสามารถให้ตัวเครื่อง และมี App ให้เลือกใช้งานอยู่เยอะแยะพอสมควร เช่น
- Evernote เป็นโน๊ตบันทึก และสามารถจัดทำรายการที่ต้องทำได้ แอปตัวนี้มีทั้งแบบที่ทำใน Web browser หรือจะทำบน โทรศัพท์ก็ได้ และมันก็จะมาแสดงที่ข้อมือของเรา (นาฬิกา)
- แอฟ พวก Weather ต่าง ๆ อันนี้ก็แน่นอน ใช้สำหรับดูสภาพอากาศทั่วไป ส่วนใหญ่ก็อ้างอิงมาจาก Yahoo weather หรือ Forecast หรือเว็บบอกสภาพอากาศต่าง ๆ
- ดูปฏิทิน ก็มีแอฟที่สามารถดูปฏิทิน และ แสดงรายการนัดหมายที่เราเพิ่มไปในปฏิทินนั้น ๆ โดยเราอาจจะ Sync กับปฏิทินของ Google หรือปฏิทินของ iphone ก็ได้
- แอปเกี่ยวกับพวกออกกำลังกาย ใช้นับก้าวการเดิน หรือรูปแบบการออกกำลังกายแบบต่าง ๆ และการตรวจสอบการนอนหลับ แต่อย่าคาดหวังอะไรเยอะ หากจะไปเทียบกับ Gadget ที่ออกแบบมาสำหรับการออกกำลังกายโดยตรง นั้นคงสู้ไม่ไหว
5. ส่งข้อความตอบกลับแบบเร่งด่วนได้ [Jail break][Smartwatch+]
ข้อนี้สำหรับขาเจลเบรคนะครับ เราสามารถตอบกลับข้อความแบบเร่งด่วนได้ คือข้อความที่เราพิมพ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เช่น "ตอนนี้ยุ่งอยู่ จะติดต่อกลับภายหลัง" , "กำลังขับรถ" เป็นต้น
หรือเราจะพิมพ์เองใน Pebble ก็ได้ แต่มันก็ดูจะไม่เหมาะเท่าไหร่ ที่ต้องมานั่งกดจิ้ม ๆ ที่ นาฬิกานาน ๆ หากต้องทำอย่างนั้นจริง ๆ สู้ยกโทรศัพท์มากดข้อความตอบกลับเลยคงจะไวกว่า
6. สามารถกดสั่งการโทรศัพท์ได้ [Jail break][Smartwatch+]
อันนี้แล้วแต่จินตนาการของแต่ละคนเลยครับ สามารถสั่งให้ Siri บอกชื่อเพลง, สั่งเปิดแอฟ, สั่งปิดแอฟ, ปิด Wifi, เปิด Wifi, เปิด 3G, เพิมเสียง, ลดเสียง, ปรับแสงหน้าจอ, เปิดเพลง, กดสุ่มเพลง ฯลฯ
แต่ แต่ แต่ เราสามารถ สั่งการได้แค่ 6 คำสั่งเท่านั้น เนื่องจากตัว Pebble มีปุ่มกดแค่ 4 ปุ่ม และเป็นปุ่ม Back ซะปุ่มหนึ่งแล้ว จึงเหลือแค่นี้
แต่ แต่ แต่ เราสามารถสั่งการแบบหลายสำสั่งได้ครับ โดยการใช้ Activate command หาโหลดได้ใน Cydia ซึ่งลักษณะจะเป็นการเขียนคำสั่ง ต่อ ๆ กันเพื่อให้โทรศัพท์ทำงานตามรายการนั้น ๆ (ต้องเขียนคำสั่งเองนะครับ)
ตัวอย่างที่ผมใช้ เช่น
killall -9 Maps && sleep 3 && activator send switch-off.com.a3tweaks.switch.location
คำสั่งนี้จะเป็นการปิดแอฟ Maps (แอฟนำทางของ IOS) จากนั้นจึงปิดระบบ GPS
ลักษณะการใช้งาน คือ ขณะเราขับรถและเปิดระบบนำทางอยู่ แล้วเมื่อเราขับถึงจุด ๆ หนึ่งที่เราจำทางได้แล้วเราก็สามารถกดสั่งการโทรศัพท์จากนาฬิกาได้เลย เพื่อปิดแอฟ และ ปิด GPS เพื่อเป็นการประหยัดแบ๊ตและถนอมตัวโทรศัพท์ไปด้วยอีกทาง
7. ทำเป็น Remote shutter แอฟกล้องถ่ายรูปของโทรศัพท์
สำหรับเครื่องที่ไม่ Jail break นั้นก็สามารถใช้ได้ แต่มีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ต้องใช้แอฟของตัวมันเองเท่านั้น แต่สำหรับเครื่อง Jail break สามารถใช้ แอฟกล้องที่ติดมากับโทรศัพท์ได้เลย
8. แจ้งเตือนหุ้น
เห็นมีอยู่ แต่ไม่ได้เล่นหุ้น เลยไม่รู้ความสามารถของมัน
9. กันน้ำ 5 ATM
ก็สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันทั่วไปได้เลย พูดกันจริง ๆ 5 ATM นี่สามารถใส่ว่ายน้ำได้ที่ระดับผิวน้ำได้เลยทีเดียว
(ตามมาตรฐาน 5 ATM สามารถใส่ดำน้ำตื้นได้นะครับ ต่ำกว่าระดับน้ำ 10 เมตร แรงดันเพิ่มขึ้น 1 ATM ครับ ดังนั้นจริง ๆ แล้ว 5 ATM ก็ประมาณ กันน้ำ 50 เมตร แต่หากเรามีการเคลื่อนไหว จะทำให้แรงดันจริง ๆ ที่กระทำกับตัวนาฬิกานั้นเปลี่ยนไป ในกรณีเดียวกัน หากมีการฉีดน้ำใส่ตัวนาฬิกาก็จะมีแรงดันที่แตกต่างกัน เช่นเดียวกันนะครับ ดังนั้นเขาจึงแนะนำว่าใส่ได้แค่ว่ายน้ำที่ผิวน้ำหรือดำน้ำตื้น สำหรับนาฬิกาที่กันน้ำ 5 ATM นะครับ)
จากนั้นมาดูข้อเสียและปัญหาที่ผมได้เจอมากันบ้างนะครับ
1. หากตั้งค่าโทรศัพท์เป็น พ.ศ. นั้น Pebble จะไม่แสดงการแจ้งเตือนนะครับ ในตอนแรกก็ตกใจเลย นึกว่าเจ้ง รอบสอง (รอบแรกได้เครื่อง Defect ครับ คือเปิดไม่ติด สั่งของจาก Lazada เค้าเลยเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้) คือจะมีการรับการแจ้งเตือนเข้านาฬิกา แต่มันจะไม่ใช่ข้อความของวันที่ปัจจุบัน ทำให้ Pebble ไม่แจ้งเตือนครับ
อันนี้แก้ได้ง่าย ๆ เลยคือ เปลี่ยน พ.ศ. เป็น ค.ศ. ที่โทรศัพท์ซะ
2. กดใช้บางแอฟในนาฬิกาไม่ได้บางเวลา อันนี้จากที่หาข้อมูลมามันเป็นปัญหาที่ระบบโทรศัพท์ IOS เอง คือ ในการทำงานของ Pebble ต้องมีการทำงานของ App Pebble ที่ตัวโทรศัพท์ และต้องทำงานขณะอยู่ใน Background mode ด้วย แต่ระบบของ IOS กรณีที่มีการใช้ Ram มาก เช่น เล่นเกมส์ 3D อะไรแบบนี้ จะทำให้ตัวระบบเรียกหน่วยความจำคืน ทำให้แอป Pebble ที่เปิดอยู่เบื้องหลังปิดระบบการทำงานของตัวเอง (แม้แอปจะเปิดอยู่ใน Backgroud mode) จึงส่งผลให้เราไม่สามารถเรียกแอฟที่ตัวนาฬิกาได้นั่นเอง
เฉพาะกับ App ที่ลงเพิ่มเติมในนาฬิกานะครับ แต่ระบบแจ้งเตือนยังทำงานได้ปรกติ แม้จะไม่เปิดแอฟ Pebble ที่โทรศัพท์ก็ตาม
วิธีแก้อย่างลวก ๆ คือ เมื่อปิดแอฟที่ใช้งานหนัก ๆ ก็กดเข้าแอฟ Pebble และแอฟ Smartwatch+ (ถ้าใครใช้) อีกครั้ง
วิธีแก้อีกแบบ สำหรับ Smartwatch+ สำหรับคน Jail break คือโหลด Cydia version แทน ซึ่งแอฟ Smartwath+ จาก Cydia นั่นจะทำงานในขั้น symtem program คือตัวโทรศัพท์จะไม่สามารถสั่งปิด App นี้ได้ (แต่เราสามารถปิดได้เองนะครับ)
ส่วนระบบ Android ที่มีแรมเยอะ ๆ หรือทำงาน แบบ multi task ได้อยู่แล้วนั้น คงไม่มีปัญหาเรื่องนี้
3. หน้าจอเป็นพลาสติก อันนี้ส่งผลให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย อย่างแน่นอน
4. แบตเตอรี่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ ถึง Version หลัง ๆ จะมีน๊อตด้านหลังตัวเครื่องแล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ใจเรื่องเปลี่ยนแบตเตอรี่อยู่ดี เพราะลองหาแหล่งขายแบตเตอรี่แล้วยังไม่มีเลย
ส่วนตัวคิดว่าเปลี่ยนได้ก็ดี เปลี่ยนไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
สังเกตุดูมีสักกี่คนที่เปลี่ยนแบตโทรศัพท์กันบ้าง ส่วนใหญ่ 2-3 ปีก็เลือกที่จะซื้อเครื่องใหม่กันแล้ว แต่สำหรับใครที่ซีเรียสเรื่องนี้ ผมแนะนำไป G-shock ดีกว่าในระดับราคาที่เท่า ๆ กัน
และจากการหาข้อมูลเพิ่มเติม โดยอ้างอิงจาก Apple watch ซึ่งต้องทำการชาร์จแบตทุกวัน ทาง Apple Guarantee การชาร์จแบตไว้ที่ 1000 รอบ แล้วตัวแบ๊ตจะเหลือประสิทธิภาพประมาณ 70%
ชาร์จวันละรอบ ก็ตกประมาณ 3 ปี (ราคาเปลี่ยนแบตประมาณ 6000 บาทนะครับ ถ้าจำไม่ผิด โดยที่ราคาตัวเครื่องเองตกประมานหมื่นนิด ๆ )
แล้วแบตของ Pebble มันจะทำไม่ได้ไกล้เคียงเลยหรอ ผมลองตีให้ว่าแบต Pebble สามารถชาร์จได้ 700 รอบ แล้วประสิทธิภาพเหลือ 70% แต่ชาร์จ 1 ครั้งอยู่ได้ 3 วันโดยประมาณ ก็จะตกที่ 2100 วัน มันก็จะตกอยู่ที่ประมาณ 5 ปีกว่า ๆo.O!! ระยะเวลาขนาดนี้ หากมันไม่พังซะก่อนผมว่ามันก็คุ้มแล้วละ
5. ลง App ได้แค่ 8 App รวม Watch face
อันนี้เป็นข้อจำกัดเรื่อง Spec ของตัวนาฬิกาเองด้วยเลยลง App ได้แค่นี้ แต่เอาจริง ๆ มันก็คือนาฬิกาหนะครับ ไม่ได้ใช้เล่นอะไรมากมายแบบนั้น หากต้องการเล่นก็ไป Smart phone ดีกว่า หน้าจอใหญ่สะใจมากกว่า
สรุป
Pebble นั้นค่อนข้างคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปนะครับ ตอบโจทย์ในเรื่องมันคือนาฬิกา และการแจ้งเตือน ได้ดีมาก แต่หากจะเทียบกับ Apple watch นั้นก็คงไม่ได้ ส่วนตัวคิดว่าค่อนข้างฟุ่มเฟือยเกินไปสำหรับนาฬิกาที่ราคาเกิน 5000 บาท แต่หากใครมีทรัพยากรณ์ทางการเงินเหลือเฟือผมก็แนะนำไปทาง Apple watch น่าจะเข้ากันกับระบบ IOS ได้มากกว่าอยู่แล้วนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น